มีผู้เชี่ยวชาญที่เน้นให้บริการทำความสะอาดภายในรถยนต์และสามารถกำจัดกลิ่นภายในรถยนต์ให้แก่เราได้ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มีประสบการณ์มากมายในการกำจัดกลิ่นที่ติดทนนานและคราบฝังแน่นในรถ ลองใช้อินเตอร์เน็ตค้นหาบริการทำความสะอาดรถที่อยู่ใกล้บ้านเราดู หรือจะโทรศัพท์ไปหาศูนย์จำหน่ายรถยนต์และขอให้ทางศูนย์แนะนำร้านที่ให้บริการทำความสะอาดรถแก่เราก็ได้ 2 ของ 2: ทำความสะอาดรถเพื่อกำจัดกลิ่น เอาเศษขยะออกจากรถให้หมด. เริ่มทำความสะอาดภายในรถอย่างง่ายๆ ด้วยการเอาสัมภาระทุกอย่างออกจากรถก่อนแล้วค่อยเอาเศษขยะออกจากรถให้หมด ภายในรถของเราอาจมีเศษอาหารหรือขยะที่เป็นตัวก่อให้เกิดกลิ่น ดูใต้เบาะที่นั่ง ตรวจกระเป๋าหลังของเบาะที่นั่ง หากพบเศษอาหาร เศษขยะ หรืออะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้นำออกมาทิ้งถังขยะให้หมด ถ้าเรามีเด็ก เด็กๆ อาจทิ้งลูกอมเหนียวๆ หรืออาหารต่างๆไว้ในกระเป๋าหลังของเบาะที่นั่ง เราต้องจัดการทำความสะอาดให้เรียบร้อย อย่าลืมทำความสะอาดกระโปรงหลังรถด้วย เช็ดพื้นผิวภายในรถยนต์เพื่อขจัดคราบที่ก่อให้เกิดกลิ่น. ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดที่นุ่มๆ และสเปรย์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ในการทำความสะอาดพื้นผิวภายในที่เป็นพลาสติก ไม้ กระจก และโลหะ อาจมีใครทำอะไรหกหรือเปื้อนพื้นผิวเหล่านี้ เราต้องเช็ดเพื่อขจัดคราบเหล่านี้ออกให้หมด ในการทำความสะอาดเบาะหนังเราควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ หรือมีอีกทางหนึ่งคือหาซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดภายในรถยนต์ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ดูแลรถยนต์ ห้างสรรพสินค้า หรืออินเตอร์เน็ต ถ้าเบาะไม่ได้เป็นหนัง กำจัดคราบได้โดยการดูดฝุ่นหรือใช้แชมพูทำความสะอาดมัน นำพรมปูพื้นรถออกมาทำความสะอาด.
ช่วงนี้ไม่ว่าจะขับรถไปไหน สองข้างทางเราก็เห็นแต่ทุเรียนเต็มไปหมด มีหลายสายพันธุ์ให้เลือกซื้อกันตามใจเลยแหละ เป็นที่รู้กันดีว่าราชาผลไม้ชนิดนี้กลิ่นแรงอย่าบอกใคร ยิ่งใครชอบกินแบบสุกงอมนะ กลิ่นหอมฉุยโชยมาแต่ไกลเลย แต่มันอร่อยนี่เนาะเวลาผ่านก็ขอแวะซื้อติดไม้ติดมือมานิดนึง พอเอาขึ้นรถต่อให้จะมัดปากถุงแน่นแค่ไหน ก็จะมีกลิ่นโชยออกตามมาอยู่ดี จิ๊บเลยมีวิธี กำจัดกลิ่น ทุเรียนในรถมาฝากเพื่อนๆ กัน รับรองว่ากลิ่นแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ รวมวิธีกำจัดกลิ่นทุเรียนบนรถ 1. ถ่านหุงข้าว ถ่านหุงข้าวถือเป็นสิ่งที่ช่วย กำจัดกลิ่น ได้ดีเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าบ้านบางบ้านจะใช้ถ่านหุงข้าวนี่แหละดับกลิ่นต่างๆ ในตู้เย็น หลักการเดียวกันเลย ถ้ามีกลิ่นทุเรียนในรถให้เพื่อนๆ หาถ่านหุงข้าวมาวางในรถประมาณ 4-5 จุด ประมาณ 2-3 วัน กลิ่นเหม็นก็จะหมดไป ก่อนที่จะนำมาวางอย่าลืมหาผ้ามาห่อด้วยนะ เพราะเดี๋ยวรถจะเลอะเอาได้ 2. น้ำส้มสายชู ให้นำน้ำส้มสายชูใส่ถ้วยประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาวางไว้ในรถทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง กลิ่นทุเรียนก็จะจางลง แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้รถเพื่อนๆ อย่าลืมนำแก้วน้ำส้มสายชูออกก่อนล่ะ ไม่งั้นถ้าหกเลอะเทอะขึ้นมางานงอกกันเลย 3.
กระทู้คำถาม คือกลิ่นอาหารทะเลติดรถเหม็นเน่ามาก ทำอย่างไรดีครับ ยิ่งช่วงนี้ ฝนก็ตก แดดก็ไม่มี ร้านคาร์แคร์ จัดการได้ไหมครับ 0 แสดงความคิดเห็น กระทู้ที่คุณอาจสนใจ อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ รถยนต์
Earth Care ถุงดับกลิ่นเหม็น ไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับแหล่งที่มาของกลิ่น – เพียงแค่วางถุง Earth Care ถุงดับกลิ่นเหม็น ในห้องใกล้กับแหล่งที่มาและกลิ่นส่วนใหญ่จะหายไปหรือลดลงอย่างมากใน 24 ชั่วโมง หนึ่งถุงครอบคลุม 50-100 ตารางฟุตและใช้เวลา 3-4 เดือน Product Dimensions: 6 x 1. 5 x 11 inches; น้ำหนัก 1.
กลิ่นรถใหม่ ปวดหัวทำไงดี?
ใบเตย เพื่อนๆ น่าจะเคยเห็นใบเตยที่เค้าม้วนเป็นช่อดอกไม้กันเนาะ ใบเตยนี่แหละช่วย กำจัดกลิ่น ได้ดี รวมถึงกลิ่นทุเรียนบนรถด้วย ให้นำใบเตยมาวางไว้บนรถประมาณ 1-2 วัน กลิ่นทุเรียนก็จะหายไป ถ้าบ้านใครปลูกใบเตยเอาไว้ก็เด็ดมันมาทั้งต้น แล้วล้างเศษดินออกให้เรียบร้อย จากนั้นนำมาม้วนเป็นช่อๆ อันนี้เราม้วนกันเองก็ได้ ไม่ต้องสวยถึงขั้นแบบเป็นช่อดอกไม้หรอก เพราะมันก็ใช้ดับกลิ่นได้เหมือนกัน 4. เบกกิ้งโซดา (ผงฟู) นำเบกกิ้งโซดาใส่ถ้วยประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ แล้วนำมาวางไว้บนรถประมาณ 2-3 วัน กลิ่นทุเรียนจะเริ่มจางลง หลังจากนั้นหากกลิ่นไม่จางลง ให้เปลี่ยนเบกกิ้งโซดาถ้วยใหม่ เพื่อใช้ กำจัดกลิ่น แทนถ้วยเก่า 5. สเปรย์ปรับอากาศ ถ้าต้องการ กำจัดกลิ่น ทุเรียนบนรถแบบเร่งด่วน ให้ใช้สเปรย์ปรับอากาศฉีดในรถไปเลย แต่ตอนฉีดต้องค่อยๆ ฉีดนะ เพราะถ้าฉีดมากไปแทนที่จะไปช่วยลดกลิ่น อาจจะทำให้ฉุนจนมึนหัวได้ 6. จอดรถตากแดด เพราะแสงแดดมีความร้อน จึงช่วยให้ กำจัดกลิ่น ต่างๆ ในรถได้เป็นอย่างดี เช่น กลิ่นอับ กลิ่นทุเรียน ฯลฯ เพียงแค่จอดรถทิ้งไว้ในที่ๆ มีแสงแดดจัด โดยเปิดประตูและกระจก ให้แสงแดดแผ่ซ่านความร้อนเข้าไปภายในรถได้อย่างเต็มที่ จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น เพียงเพื่อนๆ ลองทำตามวิธี กำจัดกลิ่น ด้านบนก็จะหมดปัญหากลิ่นทุเรียนรบกวนใจแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะเอาทุเรียนขึ้นรถ หรือกินทุเรียนบนรถ จะกลิ่นแรงแค่ไหน จิ๊บบอกเลย…ว่าเอาอยู่ 12, 183 total views, 15 views today
5 วิธีง่ายๆ กำจัดสารพัดกลิ่นในรถคุณ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมประจำตัวคุณ กลิ่นอาหารที่พกมากินในรถตอนเช้า หรือแม้แต่กลิ่นแอลกอฮอล์ที่คุณเพิ่งไปแฮงก์เอาต์มา บวกกับฝุ่นและความชื้น ผสมปนเปจนกลายเป็นกลิ่นชวนอ้วก หลายคนอาจแก้ปัญหาด้วยการวางน้ำหอมไว้ในรถเพื่อดับกลิ่น แต่รู้ไหมว่ามันคือการวางยาตัวคุณดีๆ นี่เอง มาหาหนทางกำจัดสารพัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในรถด้วยวิธีธรรมชาติและปลอดภัยดีมั้ย 1. ดับกลิ่นด้วยถ่าน ใช้กล่องพลาสติกเจาะรูรอบกล่องเยอะๆ แล้วทุบถ่านไม้เป็นก้อนเล็กๆ ใส่ให้เต็มกล่อง วางไว้ใต้เบาะนั่งได้ตลอดไม่ต้องเปลี่ยน หรือใส่ถุงผ้าเก๋ๆ ห้อยไว้ก็ได้ เพราะถ่านไม้มีคุณสมบัติดูดกลิ่น และตัวถ่านก็ไม่มีกลิ่นรำคาญใจ 2. น้ำส้มสายชูสารพัดนึก ใช้น้ำส้มสายชู 2-4 ช้อนโต๊ะ เทใส่ถ้วยแล้วตั้งทิ้งไว้ในรถประมาณ 1-2 ชม. กรดน้ำส้มเปรี้ยวๆ จะช่วยดูดกลิ่นอับชื้นในรถให้หายไป นอกจากนี้น้ำส้มสายชูยังช่วยขจัดคราบเปื้อนที่เบาะหนังได้ แค่ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำส้มสายชูพอหมาดเช็ดไปมา ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่รอยเปื้อนเกาะติดเบาะ เพียงเท่านี้คราบสกปรกที่ไม่ฝังลึกทั้งมวลก็อันตรธานหายไป 3. พรมในรถ ตัวการความเหม็นอับ หากควานหาไม่เจอว่ากลิ่นเหม็นๆ นั้นมาจากไหน บางทีอาจมาจากพรมก็ได้ โดยเฉพาะพรมที่ไม่สามารถถอดออกได้ แนะนำให้จอดรถกลางแดด แล้วเปิดประตูทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าพรมถอดออกได้ควรนำออกมาตากแดดจนกว่าพรมจะแห้ง ช่วยลดความอับชื้นและฆ่าเชื้อโรคในคราวเดียว 4.
มีผู้เชี่ยวชาญที่เน้นให้บริการทำความสะอาดภายในรถยนต์และสามารถกำจัดกลิ่นภายในรถยนต์ให้แก่เราได้ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้มีประสบการณ์มากมายในการกำจัดกลิ่นที่ติดทนนานและคราบฝังแน่นในรถ [4] ลองใช้อินเตอร์เน็ตค้นหาบริการทำความสะอาดรถที่อยู่ใกล้บ้านเราดู หรือจะโทรศัพท์ไปหาศูนย์จำหน่ายรถยนต์และขอให้ทางศูนย์แนะนำร้านที่ให้บริการทำความสะอาดรถแก่เราก็ได้ วิธีการ 2 ของ 2: ทำความสะอาดรถเพื่อกำจัดกลิ่น เอาเศษขยะออกจากรถให้หมด. เริ่มทำความสะอาดภายในรถอย่างง่ายๆ ด้วยการเอาสัมภาระทุกอย่างออกจากรถก่อนแล้วค่อยเอาเศษขยะออกจากรถให้หมด ภายในรถของเราอาจมีเศษอาหารหรือขยะที่เป็นตัวก่อให้เกิดกลิ่น [5] ดูใต้เบาะที่นั่ง ตรวจกระเป๋าหลังของเบาะที่นั่ง หากพบเศษอาหาร เศษขยะ หรืออะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้นำออกมาทิ้งถังขยะให้หมด ถ้าเรามีเด็ก เด็กๆ อาจทิ้งลูกอมเหนียวๆ หรืออาหารต่างๆไว้ในกระเป๋าหลังของเบาะที่นั่ง เราต้องจัดการทำความสะอาดให้เรียบร้อย อย่าลืมทำความสะอาดกระโปรงหลังรถด้วย เช็ดพื้นผิวภายในรถยนต์เพื่อขจัดคราบที่ก่อให้เกิดกลิ่น. ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดที่นุ่มๆ และสเปรย์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ในการทำความสะอาดพื้นผิวภายในที่เป็นพลาสติก ไม้ กระจก และโลหะ [6] อาจมีใครทำอะไรหกหรือเปื้อนพื้นผิวเหล่านี้ เราต้องเช็ดเพื่อขจัดคราบเหล่านี้ออกให้หมด ในการทำความสะอาด เบาะหนัง เราควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดเบาะหนังโดยเฉพาะ หรือมีอีกทางหนึ่งคือหาซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดภายในรถยนต์ที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ดูแลรถยนต์ ห้างสรรพสินค้า หรืออินเตอร์เน็ต ถ้าเบาะไม่ได้เป็นหนัง กำจัดคราบได้โดยการดูดฝุ่นหรือใช้แชมพูทำความสะอาดมัน นำพรมปูพื้นรถออกมาทำความสะอาด.
พรมปูพื้น (ซึ่งคนขับและผู้โดยสารมักใช้วางเท้า) สามารถนำออกมาทำความสะอาดได้ ฉะนั้นให้ดึงพรมออกมาและใช้ผ้าขี้ริ้วสองสามผืนกับน้ำสบู่อุ่นๆ ทำความสะอาดพรมปูพื้นนั้น พรมปูพื้นรถอาจมีคราบสะสมอยู่ทีละเล็กทีละน้อยและก่อให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในรถของเรา [7] ใช้น้ำสะอาดในการทำความสะอาดพรมปูพื้น เช็ดพรมให้แห้งสนิท พื้นรถจะได้ไม่เปียกเมื่อนำพรมปูพื้นกลับไปวางไว้ที่เดิมในรถ ดูดฝุ่นพรมและเบาะที่นั่งเพื่อเอาสิ่งสกปรกออกให้หมด. ดูดฝุ่นพรมและเบาะที่นั่งเพื่อเอาฝุ่นและเศษผงออก นอกจากฝุ่นและเศษผงแล้ว เราต้องดูดฝุ่นเพื่อเอาเศษอาหารหรือเศษขยะเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจยังติดอยู่บนพรมออก ถ้าสามารถดูดสิ่งสกปรกพวกนี้ออกไปได้หมด กลิ่นภายในรถก็น่าจะเบาบางลง ดูดฝุ่นให้ทั่วเบาะที่นั่งและพื้นรถ [8] ถ้าหากแน่ใจว่ากลิ่นมาจากพรมปูพื้นรถอย่างแน่นอน โรยผงกำจัดกลิ่นที่พรม ปล่อยทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ฉลากผลิตภัณฑ์แนะนำ (มักจะประมาณ 5-10 นาที) ก่อนที่จะใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดผงกำจัดกลิ่นนั้นออกไป ใช้น้ำยาทำความสะอาดภายในรถยนต์ ถ้าการดูดฝุ่นไม่ช่วยทำให้กลิ่นหายไป.
นำน้ำส้มสายชูขาวมาผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:1 นำผ้าขี้ริ้วชุบน้ำยานั้นและเช็ดสิ่งที่ตกค้างจากควันบุหรี่และทาร์ออกจากพื้นผิวภายในรถยนต์. [1] เนื่องจากควันบุหรี่จะค่อยๆ กระจายไปทุกพื้นผิวภายในรถ เราอาจต้องฉีดสเปรย์ดับกลิ่นที่ช่องแอร์และช่องลมของรถด้วย ถ้าเราหรือใครก็ตามสูบบุหรี่ในรถเป็นประจำ กลิ่นบุหรี่ก็จะคงอยู่ตลอด ฉะนั้นควรหยุดสุบบุหรี่ในรถไปเลยจะดีกว่า 2 ดูดความชื้นเพื่อกำจัด เชื้อรา.