New Mazda CX-3 2021 ได้ทำการเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย วันที่ 2 ธันวาคม พ. ศ. 2563 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 เมืองทองธานี ที่งาน Motor Expo 2020 ครั้งที่ 37 ซึ่งสร้างความสนใจให้แก่สื่อมวลชนเป็นอย่างมาก เพราะ Mazda กำลังสร้างมาตรฐาน ให้กับรถยนต์ SUV ด้วยเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงแต่ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และการปรับโฉมใหม่ในรูปแบบการดีไซน์ที่พิถีพิถันสไตล์ KODO ตามไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน " Less is more" คือนิยามของ New Mazda CX-3 2021 ด้วยดีไซน์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก หรูหราและสง่างาม แอบแฝงไปด้วยแรงบัลดาลใจจากผู้พัฒนา ที่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของ New Mazda CX-3 2021 เป็นรถยนต์ SUV ที่มีความทรงพลังสะกดทุกสายตาบนท้องถนน มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2. 0 ลิตร ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัย i-Activsense ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน สร้างความสะดวกสบายในการขับขี่ทั้งกลางวันและกลางคืนด้วยระบบแสงไฟอัตโนมัติ และยังมีระบบความปลอดภัยสูงถึง 8 ระบบเลยทีเดียว โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 769, 000 บาท ซึ่งทาง Mazda ตั้งใจจะไม่ให้รถยนต์รุ่นนี้ราคาเกิน 1, 000, 000 บาท จุดเด่นของ New Mazda CX-3 2021 แน่นอนว่าจุดเด่นของ Mazda CX-3 นอกจากเรื่องของดีไซน์แล้ว ตัวเครื่องยนต์นั้นก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน Mazda CX-3 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.
0 ลิตร รหัส PE-VPS 156 แรงม้าที่ 6, 000 รอบ/นาที แรงบิด 199 นิวตันเมตรที่ 4, 000 รอบ/นาที โดยทุกขนาดเครื่องยนต์จับคู่กับ SKYACTIV-Drive 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา SKYACTIV-MT 6 สปีดในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2. 2 เลือกได้ทั้งรุ่นขับสองล้อหน้าและขับสี่ AWD Mazda CX-5 และ Mazda CX-8 MY2021 มีราคาจำหน่ายดังนี้เริ่มที่รุ่น Mazda CX-5 MY2021 เริ่มที่ 2, 678, 500 - 4, 141, 500 yen หรือราว 781, 000- 1, 207, 000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย) และ Mazda CX-8 MY2021 เริ่มต้น 2, 994, 200 - 5, 109, 500 yen หรือราว 873, 000 – 1, 489, 000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย) ส่วนเมืองไทยจับตาว่า 2 เอสยูวีหรูจากเมืองฮิโรชิม่านี้จะมีการปรับเปลี่ยนด้วยหรือไม่นั้นต้องติดตาม ที่มา Carwatch ติดตามข่าวสารรถยนต์รวดเร็วก่อนใครได้ที่
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, เชื่อมต่อและสั่งการผ่านโทรศัพท์มือถือได้ด้วยระบบ Honda Connect, ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่, ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบเบรกมือไฟฟ้า, ระบบ Brake Hold อัตโนมัติป้องกันไม่ให้รถเคลื่อนตัวโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้, กล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอยรถ, ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง, ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ ราคาจำหน่าย 2. 0 C ราคา 1, 300, 000 บาท 2. 0 S ราคา 1, 410, 000 บาท 2. 0 SP ราคา 1, 560, 000 บาท XD ราคา 1, 570, 000 บาท XDL ราคา 1, 790, 000 บาท 2. 5 TURBO SP ราคา 1, 850, 000 บาท 2. 4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1, 369, 000 บาท 2. 4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1, 419, 000 บาท 2. 4 E 7 ที่นั่ง ราคา 1, 529, 000 บาท 2.
4 ลิตร กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6, 200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 224 นิวตันเมตร ที่ 4, 000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ FWD และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Real-time 4WD รองรับน้ำมันสูงสุด E85 เทคโนโลยีการขับขี่และความปลอดภัย เครื่องยนต์ดีเซล i-DTEC Commonrail 4 สูบแถวเรียง ขนาด 6 ลิตร 1, 597 ซีซี.
0 ลิตร และดีเซล 3. 3 ลิตร พร้อมกันนี้ในรุ่นอื่นๆ ยังจะมีเครื่องยนต์เบนซิน 2. 5 ลิตร และไฮบริดให้เลือกด้วย ด้านดีไซน์ spyder7 ระบุว่า Mazda CX-50 จะถูกออกแบบให้ดูแตกต่างจากรถครอสโอเวอร์ของผลิตรายอื่น โดยตัวรถจะมีลักษณะเหมือนรถคูเป้มากขึ้น พร้อมกับมีเสา A และเสา C ที่ลาดเอียง อย่างไรก็ตาม CX-50 จะยังคงยึดภาษาการออกแบบ Kodo Design ที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ทั้งกระจังหน้า ไฟหน้า และอาจมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของบั้นท้ายเล็กน้อย ทั้งนี้ Mazda เคยบอกว่าพวกเขาจะไม่มีรถรุ่นใหม่เปิดตัวจนถึงเดือนมีนาคมปี 2022 ซึ่งดูเหมือนจะขัดกับ Spyder 7 เล็กน้อยที่ระบุว่า Mazda CX-50 จะถูกเผยโฉมในปี 2021 และวางจำหน่ายในปี 2022