ทำความสะอาดเตาอบ เริ่มจากถอดตะแกรงออกมาแช่น้ำอุ่นผสมน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจานประมาณ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นจึงใช้ฟองน้ำขัดทำความสะอาดตะแกรงก่อนนำไปตากลมให้แห้ง เสร็จแล้วผสมเกลือป่น ¼ ถ้วยตวง, เบกกิ้งโซดา ¾ ถ้วยตวง และน้ำสะอาด ¼ ถ้วยตวง โดยก่อนป้ายสวนผสมที่เตรียมไว้ให้ทั่วเตาอบ ให้ใช้กระดาษฟอยล์หุ้มส่วนผังวงจรหรือส่วนที่ไม่ควรโดนน้ำให้มิดชิดก่อนจึงค่อยละเลงน้ำยาที่ผสมลงไป ทิ้งไว้ข้ามคืน วันรุ่งขึ้นค่อยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำบิดหมาด 6. ล้างตู้เย็น ถอดปลั๊กตู้เย็นเพื่อความปลอดภัยแล้วเริ่มเคลียร์พื้นที่ตู้เย็นให้โล่ง รวมทั้งถอดชิ้นส่วนที่ถอดได้ออกมาล้างด้วยน้ำยาล้างจานเสร็จแล้วตากลมให้แห้ง จากนั้นผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ ¼ ถ้วยตวง สำหรับใช้เป็นน้ำยาล้างตู้เย็น แล้วจัดการทำความสะอาดตู้เย็นด้วยฟองน้ำหรือผ้าขนหนูให้ทั่วทุกตารางนิ้ว ตามด้วยเช็ดคราบออกด้วยผ้าชุบน้ำ ก่อนเช็ดพื้นที่ให้แห้งอีกครั้ง แล้วนำชิ้นส่วนที่ถอดออกไปล้างกลับเข้าที่ตามเดิม 7. ทยอยนำอาหารเข้าตู้เย็น เมื่อคัดแยกอาหารเน่าเสียออกไปแล้ว ให้คุณทยอยเก็บอาหารที่เหลือเข้าตู้เย็น โดยก่อนแช่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบสกปรกและกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกาะติดอยู่ออกไปให้หมดจด พร้อมกันนั้นแนะนำให้เทเบกกิ้งโซดาใส่ถ้วยแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นเพื่อดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ 8.
แผ่นสเตนเลส มีให้เลือกทั้งแบบเงาหรือแบบผิวด้าน สามารถทนความร้อนได้ดี มีขนาดใหญ่จึงสามารถปิดผิวต่อเนื่องแบบไร้รอยต่อระหว่างเคาน์เตอร์กับผนัง แต่ต้องระวังอาหารหรือสารเคมีที่เป็นกรด/ด่างสูงเพราะจะทำให้เกิดรอยด่างที่เอาออกได้ยาก ภาพ: บุผนังครัวบริเวณเตาด้วยวัสดุสเตนเลสทั้งผืนแบบไร้รอยต่อ 3. หินเทียมหรือหินสังเคราะห์ ควรเลือกประเภทที่ดูดซึมน้ำต่ำ (เช่น มีส่วนผสมเป็นอะคริลิก 100%) สามารถดูแลทำความสะอาดง่าย ทนความร้อนและความชื้นได้ดี และสามารถออกแบบให้พื้นผิวเคาน์เตอร์และผนังดูต่อเนื่องเป็นผืนเดียวกันได้ ภาพ: เลือกบุผิวผนังบริเวณอ่างล้างจานด้วยหินเทียม ที่มีความต่อเนื่องของพื้นผิวแบบไร้รอยต่อกับเคาน์เตอร์ 4.
สำหรับหลายครอบครัวแล้ว ห้องครัวเปรียบเสมือนหัวใจของบ้าน สถานที่ซึ่งสมาชิก ในครอบครัวมารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหาร พูดคุย สอนการบ้าน ฯลฯ ในขณะเดียวกัน ก็เป็นสถานหนึ่งในสถานที่ที่มีเชื้อโรคมากที่สุดในบ้าน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องปฏิบัติตามวิธีปฏิบัติเพื่อการมีสุขอนามัยที่ดีเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคอันเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยด้วยโรคภัยต่างๆ เช่น อาหารเป็นพิษ เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของความสะอาดในห้องครัวและวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคในห้องครัว
ห้องนั่งเล่นของคุณคือเพื่อให้สกปรกหรือยุ่งที่คุณไม่รู้สึกเหมือนอยู่ในที่ทั้งหมดหรือไม่ ปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้และมันจะต้องสะอาดเป็นอย่างที่มันจะพาคุณไปชมรายการโทรทัศน์ที่คุณชื่นชอบ - ที่คุณสามารถทำได้ขณะที่คุณกำลังทำความสะอาด!
1. ถอดหัวเตาออกมาทำความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า ส่วนมากเตาจะสามารถถอดประกอบได้หมด และก็มักจะเปื้อนไปด้วยคราบอาหารและเศษอาหารด้วย ฉะนั้นให้ถอดส่วนประกอบของเตาออกมาทำความสะอาดก่อนเป็นอันดับแรก โดยใช้น้ำล้างจานผสมน้ำอุ่นและฟองน้ำขัดทำความสะอาด แต่ในส่วนหัวเตาแนะนำให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดจนเกือบแห้งค่อย ๆ เช็ดเศษสกปรกที่ตกค้างอยู่ให้หมดไป 2. ทำความสะอาดหน้าเตา หลังจากล้างส่วนเตาแล้วตากทิ้งไว้ คราวนี้ถึงเวลาทำความสะอาดหน้าเตาแล้วค่ะ อุปกรณ์ก็เหมือนเดิม แค่น้ำอุ่น, น้ำยาล้างจาน และฟองน้ำนุ่ม ๆ เท่านั้นพอ ทว่าหากเจอคราบกำจัดยากอาจต้องขอแรงเบกกิ้งโซดาผสมน้ำส้มสายชูมาช่วยหมักคราบก่อนเช็ดออกด้วยฟองน้ำหมาด 3. จัดการปุ่มเปิดเตา ปุ่มเปิดเตาที่เยิ้มไปด้วยคราบมัน ให้ถอดออกมาแล้วทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานหรือน้ำสบู่ผสมน้ำอุ่น เพียงแต่ต้องตรวจสอบก่อนนะคะว่า น้ำยาล้างจานหรือสบู่ที่ใช้ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนียอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นปุ่มเตาแก๊สของเราอาจด่างดำได้ 4. ปล่องดูดควันต้องสะอาดด้วย สำหรับห้องครัวที่ติดตั้งปล่องดูดควันไว้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานไปเช็ดทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกปล่องดูดควันให้หมดจด แล้วต่อไปก็ควรถอดฟิลเตอร์ปล่องดูดควันมาล้างด้วยน้ำยางล้างจานเป็นประจำทุกเดือน 5.
ขจัดคราบอ่างล้างจาน ผสมน้ำอุ่นจัดกับน้ำยาล้างจานแล้วใช้ฟองน้ำชุบทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณอ่าง ล้างจาน และต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจานพร้อมทั้งน้ำส้มสายชูเล็กน้อย รอจนน้ำเดือดจัดจึงนำไปเทลงท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างจานทันที เพื่อกำจัดทุกสิ่งอุดตันและคราบมันที่ตกค้าง 12. จัดการคราบน้ำด่างเป็นรอย คราบน้ำสีขาวที่ปรากฏอยู่บนก๊อกน้ำสามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่ง จากนั้นนำผ้าขนหนูมาชุบก่อนนำไปเช็ดก๊อกน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดอีกครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด 13. ทำความสะอาดเครื่องครัว เครื่องครัวอย่างไมโครเวฟและเครื่องปั่น รวมทั้งเครื่องครัวชนิดอื่น ๆ ควรนำออกมาทำความสะอาดด้วย โดยทางที่ดีให้ทำความสะอาดตามคำแนะนำจากคู่มือการใช้งาน ส่วนไมโครเวฟสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วยการบีบน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่า นำไปอุ่นในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิสูงนาน 1 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดคราบเปื้อนให้หมดจด 14. ปัด กวาด เช็ด ถู เมื่อเคลียร์องค์ประกอบอื่น ๆ ในห้องครัวเกือบครบแล้ว คราวนี้ได้เวลามาจัดการทำความสะอาดพื้นที่โดยรวม โดยเริ่มแรกให้ปัดฝุ่นทุกพื้นที่ เน้นตามมู่ลี่ด้วย จากนั้นจึงค่อยกวาดฝุ่นให้สะอาดหรือจะดูดฝุ่นแทนก็ได้ ปิดท้ายด้วยการใช้ไม้ม็อบถูพื้นเป็นอันเรียบร้อย 15.
สื่อการสอนการงานอาชีพ ป 5 vdo การทำความสะอาดห้องครัว - YouTube
ทำความสะอาดเขียงไม้อย่างถูกวิธี เขียงไม้จะทำความสะอาดยากกว่าเขียงพลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้หั่นอาหารที่มีกลิ่นฉุนๆอย่างหัวหอม หรือกระเทียม การใช้แค่น้ำยาล้างจานอาจไม่ได้ผล เราขอแนะนำให้ลองใช้น้ำส้มสายชูแทนดูก่อน จะกำจัดกลิ่นได้ดีกว่า 6. กำจัดกลิ่นอาหารที่อยู่ในกล่องพลาสติก กล่องใส่อาหารแบบพลาสติก บางครั้งหลังจากเอามาล้างแล้วก็ยังมีกลิ่นอาหารอยู่ วิธีแก้คือให้ลองเอากระดาษหนังสือพิมพ์ยัดเข้าไปข้างใน แล้วทิ้งไว้สัก 1 คืน รุ่งเช้ากลิ่นจะหายได้ 7. ควรมีสบู่สูตรฆ่าเชื้อโรคติดไว้ในครัวด้วย จะเป็นสบู่ก้อน สบู่เหลว หรือสบู่โฟมก็ได้ ไว้ใช้สำหรับล้างมือหลังประกอบอาหารเสร็จ นอกจากนี้ยังอาจเอาผสมกับน้ำ ใช้ผ้าขนหนูชุบ แล้วเช็ดเคาน์เตอร์ หรือรอบๆเตาทำอาหารให้สะอาดก็ได้ 8. เอาดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมๆเข้ามาประดับ เช่น อาจจะตัดกุหลายเข้ามาปักแจกันสักช่อสองช่อ จะได้กลิ่นหอมที่เป็นธรรมชาติ และยิ่งหมั่นรักษาความสะอาดในห้องครัวควบคู่กันไปด้วย รับรองได้ว่าจะไม่มีกลิ่นเหม็นมากวนใจแน่นอน ภาพจาก: ELLA JAMES ( ร้านค้าออนไลน์ใน OAKHAM) ไอเดียการตกเเต่งห้องน้ำให้สวยตามนิสัยเเต่ละราศี ค้นพบแรงบันดาลใจให้บ้านของคุณ
ทำความสะอาดคราบมันบนผนังห้องครัว โดยปกติแล้วสามารถใช้ฟองน้ำชุบน้ำผสมน้ำยาล้างจานทำความสะอาดผนังห้องครัว ได้ แต่ถ้ามีคราบมันสะสมจนเช็ดไม่ออก ให้เพิ่มน้ำส้มสายชูลงไปด้วย ขัดทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วเช็ดออก 5. ทำความสะอาดคราบเขม่าบนผนังห้องครัว ขั้นต้นใช้ฟองน้ำชุบน้ำผสมน้ำยาล้างจานทำความสะอาดผนังห้องครัว แล้วตามด้วยชุบน้ำร้อนผสมน้ำยาซักผ้าขาวและน้ำสบู่ ขัดคราบเขม่าควันให้สะอาด 6. ทำความสะอาดอ่างล้างจาน ใช้ฟองน้ำชุบน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจานแล้วทำความสะอาดอ่างล้างจาน ส่วนท่ออ่างล้างจานที่มีคราบไขมันและสิ่งอุดตันสามารถทำความสะอาดได้โดยต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจานและน้ำส้มสายชูให้เดือด เมื่อเดือดแล้วนำไปเทได้เลย 7. ขจัดกลิ่นเหม็นในครัว นำน้ำเปล่าผสมแอลกอฮอล์ใส่ขวดสเปรย์นำไปพ่นตามมุมที่ตั้งขยะหรือจุดที่มีกลิ่นเหม็น ส่วนท่อน้ำทิ้งให้นำน้ำส้มสายชูแช่จนเป็นน้ำแข็ง จากนั้นเตรียมน้ำเดือดไปราดในท่อน้ำทิ้งเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน แล้วนำก้อนน้ำส้มสายชูแข็งมาวางไว้ที่รูท่อสักสองสามชิ้นเพื่อดับกลิ่น 8. ขจัดกลิ่นอับในตู้กับข้าว นำปูนขาวผสมน้ำส้มสายชู ตั้งไว้ตามมุมตู้กับข้าว หรือใช้สบู่หอมหรือกากใบชาตั้งไว้ตามมุมตู้ก็ช่วยขจัดกลิ่นอับได้เช่นกัน 9.
ขจัดคราบอ่างล้างจาน ผสมน้ำอุ่นจัดกับน้ำยาล้างจานแล้วใช้ฟองน้ำชุบทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณอ่างล้างจาน และต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจานพร้อมทั้งน้ำส้มสายชูเล็กน้อย รอจนน้ำเดือดจัดจึงนำไปเทลงท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างจานทันที เพื่อกำจัดทุกสิ่งอุดตันและคราบมันที่ตกค้าง 12. จัดการคราบน้ำด่างเป็นรอย คราบน้ำสีขาวที่ปรากฏอยู่บนก๊อกน้ำสามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่ง จากนั้นนำผ้าขนหนูมาชุบก่อนนำไปเช็ดก๊อกน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดอีกครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด 13. ทำความสะอาดเครื่องครัว เครื่องครัวอย่างไมโครเวฟและเครื่องปั่น รวมทั้งเครื่องครัวชนิดอื่น ๆ ควรนำออกมาทำความสะอาดด้วย โดยทางที่ดีให้ทำความสะอาดตามคำแนะนำจากคู่มือการใช้งาน ส่วนไมโครเวฟสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วยการบีบน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่า นำไปอุ่นในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิสูงนาน 1 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดคราบเปื้อนให้หมดจด 14. ปัด กวาด เช็ด ถู เมื่อเคลียร์องค์ประกอบอื่น ๆ ในห้องครัวเกือบครบแล้ว คราวนี้ได้เวลามาจัดการทำความสะอาดพื้นที่โดยรวม โดยเริ่มแรกให้ปัดฝุ่นทุกพื้นที่ เน้นตามมู่ลี่ด้วย จากนั้นจึงค่อยกวาดฝุ่นให้สะอาดหรือจะดูดฝุ่นแทนก็ได้ ปิดท้ายด้วยการใช้ไม้ม็อบถูพื้นเป็นอันเรียบร้อย 15.