เพื่อให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ๒. เพื่อแสดงออกถึงพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมโครงการในการช่วยเหลือสังคม ๓. เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ ๔. เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เสริมสร้างความรู้ คุณธรรม จริยธรรมและปฏิบัติตนตามหลักพระพุทธศาสนาได้อย่างเหมาะสม ๕.
จิตอาสาสายตารางแน่น บริจาคเงิน/สิ่งของ, จัดแคมเปญหักกำไรคืนสู่สังคม เชื่อว่ามีน้องหลายคนที่อยากไปทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกับเพื่อนๆ แต่ติดปัญหาเรื่องเวลาและการเดินทาง วิธีแก้ปัญหา(แบบเข้าเนื้อ) คือการบริจาคเงินและสิ่งของ "ตามกำลัง" เช่น เสื้อผ้า, ผ้าห่ม, หนังสือ, ผ้าอ้อมเด็ก/ผู้ใหญ่, รถเข็น ฯลฯ หรือถ้าใครมีธุรกิจ อาจจัดแคมเปญแล้วหักเปอร์เซนต์สมทบทุนช่วยเหลือก็ได้เหมือนกัน แต่สิ่งสำคัญต้องทำอย่างจริงใจและโปร่งใสนะคะ สุดท้ายนี้... ถ้าน้องๆ อยากรู้ว่าคนทำจิตอาสามีความสุขจริงๆ ไหม พี่ขอชวนอ่าน!! "PFC จิตอาสา" กลุ่มแฟนคลับช่วยเหลือสังคม ผู้รับพลังบวกจาก "เป๊ก ผลิตโชค" "อิม" สาวสวยผู้รักสุนัขเป็นชีวิตจิตใจ กับภารกิจเปลี่ยนโลกทั้งใบให้น้องหมากว่า 300 ชีวิต! "น้ำค้าง" วัยรุ่นติสต์ๆ ผู้รักงานจิตอาสา กับแง่มุมของคนรุ่นใหม่ต่องานช่วยเหลือสังคม ภารกิจ "ซ่อมฝายให้หายขาด" สานสัมพันธ์ชาวบ้าน & พี่น้องวิทยาลัยโพธิวิชชาลัย มศว จะว่าไปแล้ว รูปแบบจิตอาสาที่ไม่เกินแรงเด็กมัธยมมีให้เลือกเยอะมากตามกำลังและความถนัดเลยล่ะค่ะ^^ ถ้าใครสะดวกไปรวมกลุ่มจิตอาสากับคนอื่นๆ ก็จะได้ทั้งความสนุกและมิตรภาพจนไม่เหมือนมาทำงาน แต่ถ้าใครติดปัญหาเรื่องเงิน เวลา และการเดินทาง แนะนำให้เริ่มจากสิ่งง่ายๆ ใกล้ตัว พี่รับรองว่า การเป็นจิตอาสาทุกสาย จะต้องทำให้น้องๆ Dek-D สุขใจอย่างบอกไม่ถูกแน่นอน~
00 – 17. 00 น. (หยุดเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เรื่องเล่าจากพี่เลี้ยงอาสา "เราได้เรียนรู้ชีวิตของเขา เช่น น้องคนนึงอยากเป็นคอมพิวเตอร์ อยากเป็นนักดนตรีด้วย แนะนำว่าเขาสามารถทำไปได้ 2 อย่าง แต่เขาไม่มีข้อมูล ไม่มีอินเทอร์เนต ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีหนังสือ เขาเอื้อมไม่ถึง สุดท้ายก็ช่วยกันคิดว่าเขาจะเข้าถึงอะไรที่ไหนได้บ้าง….
6 ข้อดีที่ชีวิตจะได้รับ เมื่อคุณเกิดคำถามว่า "ทำงานอาสาฯ จะได้อะไรบ้าง? " ถ้าวันหยุดของคุณไม่ใช่วันหยุดที่เหมือนกับคนอื่น มีช่วงปิดเทอมที่ไม่รู้จะออกไปไหน หรือเบื่อที่จะต้องเอาเวลาลาพักร้อนไปกินไปเที่ยวลูกเดียว คุณลองใช้โอกาสนี้เปลี่ยนมุมมองชีวิตคุณด้วยการทำงานจิตอาสาดูสักครั้ง อาจไปเป็นครูบนดอย ออกไปเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส หรืออะไรก็ตามแต่ที่เป็นงาน "เสียตังค์น้อย แต่ใช้แรงมาก" อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่ลองอุทิศตัวเองเพื่อสังคมบ้าง คุณจะได้รับสิ่งดี ๆ อย่างน้อยก็ 6 ข้อต่อไปนี้ ที่จะทำให้ชีวิตคุณมีความหมายมากขึ้น 1. ได้สร้างเกียรติประวัติให้ตัวเอง ถ้าคุณเป็นคนที่กำลังหาตำแหน่งงานว่าง คุณลองเสียสละเวลาสักนิดก่อนร่อนใบสมัครงานไปเข้าโครงการจิตอาสาต่าง ๆ สักพักหนึ่งดูสิ คุณจะรู้ว่าแค่กรอกประวัติการทำงานจิตอาสาเข้าไป มันก็มีชัยมากกว่าการถือทรานสคริปต์งาม ๆ ให้นายจ้างดู นั่นก็เพราะนายจ้างเขาต้องการจ้างคนที่มีทัศนคติที่ดี ไม่เห็นแก่ตัว เพื่องานที่ดีสำหรับองค์กรเขาไงล่ะ 2. ได้สุขภาพที่ดี สุขภาพทางด้านจิตใจและอารมณ์จะเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดมาก อย่างน้อยคุณจะรู้สึกดีที่ได้ช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มีพื้นฐานจิตใจที่ดีจากการเมตตาคนอื่น มีสุขภาพกายที่ดีจากการทุ่มเทพลังกาย รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองที่เป็นส่วนหนึ่งได้ขับเคลื่อนให้ภารกิจประสบความสำเร็จ(ซึ่งการได้ให้และได้รับกำลังใจนี้ มันมีผลโดยตรงกับการหลั่งสารที่เกี่ยวกับความสุขในร่างกาย นั่นก็แปลว่ามันเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพด้วย) ถ้าคุณกำลังท้อแท้ สิ้นหวัง ลองใช้โอกาสสักครั้งแบกเป้ไปลุยป่าลุยงานอาสาสมัครสักครั้ง นอกจากธรรมชาติแล้ว กำลังใจและกำลังกายก็ได้มาจากการทำงานจิตอาสานี่แหละ 3.
เสริมสร้างด้านสวยสะอาดบริเวณโรงเรียน เด็กนักเรียนทุกระดับชั้นช่วยกันดูแลบริเวณโรงเรียน ห้องเรียน และบริเวณวัด ให้งดงาม สะอาด เรียบร้อย ส่งเสริมนักเรียนให้มีจิตอาสาพัฒนาอย่างยั่งยืน 2. เสริมสร้างการเสียสละบริจากหนังสือและจัดบรรยากาศห้องสมุด เด็กนักเรียนได้อ่านหนังสือในระหว่างทำการจัดหนังสือเป็นการเสริมสร้างให้เด็ก รักการอ่าน ทำให้เด็กสามารถอ่านหนังสือได้ถูกต้อง และเป็นการเสริมสร้างความรู้ให้กับนักเรียน 3. เสริมสร้างด้านสุขอนามัยโรงเรียนพัฒนาห้องน้ำห้องส้วมและสนามเด็กเล่น เด็กนักเรียนเรียนรู้การใช้เครื่องมือในการทำความสะอาด และสารเคมีในการล้างห้องน้ำ อย่างถูกวิธี เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในกลุ่มการงานและเทคโนโลยี 4. เสริมสร้างด้านคุณธรรม เสียสละ และการใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง เด็กนักเรียนได้เรียนรู้การดำเนินงานสหกรณ์ นักเรียนได้ลงมือปฎิบัติจริง เรียนรู้การดำรงชีวิตอย่างพอเพียง 5. สร้างเสริมความรู้ทัศนศึกษาแหล่งประวัติศาสตร์ นักเรียนเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในท้องถิ่น ทำให้เด็กนักเรียนตระหนักหวงแหนแผ่นดินบ้านเกิด มีความรู้ในรายวิชากลุ่มสังคมศึกษาและวัฒนธรรม
1-6) และสายอาชีพ (ปวช.
คุยและให้คำปรึกษากับน้องทางโทรศัพท์ เมื่อน้องโทรศัพท์เข้ามาขอคำปรึกษา 2. โทรศัพท์หาน้องนักเรียนทุนเพื่อให้คำปรึกษา เฉลี่ยประมาณ 4-5 คน/เดือน จากจดหมายที่น้องเขียนมาขอคำปรึกษา จาก Facebook กลุ่มปิดนักเรียนทุนยุวพัฒน์ 3. ออกแบบกิจกรรมบนเฟซบุ๊ก อาทิตย์ละ 2-3 เรื่อง ครอบคลุมนักเรียนทุนสายสามัญ (ม. 1-ม. 6) และสายอาชีพ (ปวช. 1-3) ตัวอย่างการออกแบบโพสต์ในกลุ่มปิดนักเรียนทุน 4. ตอบคอมเม้นท์ (Comment) และ กล่องข้อความ (Inbox) นักเรียนทุน 5. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเอกสาร การเข้าระบบทุนออนไลน์ เมื่อมีนักเรียนทุนสอบถามข้อมูล (ข้อมูลคำตอบ ทางมูลนิธิฯเป็นคนรวบรวมไว้ให้) 6. บันทึกข้อมูลน้องนักเรียนทุนที่ได้พูดคุยทางโทรศัพท์และกล่องข้อความ (Inbox) เฟซบุ๊ก ลงระบบฐานข้อมูล 7. มีการบรรยาย ให้ความรู้ ให้คำแนะนำกับน้องนักเรียนทุนในกลุ่มปิดเฟซบุ๊ค ผ่านทางไลฟ์สด หรือผ่านโปรแกรม zoom cloud meetings เดือนละ 1-2 ครั้ง ช่วงเวลาของการปฏิบัติงาน อาสาทำงานวันละไม่เกิน 1 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 15. 00 – 20. 00 น.
การทำเพื่อผู้อื่นมีอยู่ในยีนของเราทุกคน การสละเวลาและกำลังกายเพื่อผู้อื่น ทำให้เกิดผลลัพธ์อันมหัศจรรย์แก่ตัวผู้ให้ เป็นผลสำรวจของ UnitedHealth Group ของสหรัฐฯ เมื่อกลางปี 2556 ซึ่งพบว่า การทำงานอาสาสมัคร โดยเฉพาะเมื่อได้ทำงานที่ชื่นชอบ นอกจากจะสร้างสังคมให้น่าอยู่แล้ว ตัวอาสาสมัครเองยังมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น และมีสุขภาพดีตามไปด้วย ความสุขจากการทำงานจิตอาสาเป็นความสุขที่ช่วยให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น สำหรับผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารจิตอาสาอย่าง ดร. สรยุทธ รัตนพจนารถ หรือ อ. เอเชีย ยืนยันประโยชน์ข้อนี้เช่นกัน "ผมคิดว่า ความสุขจากการทำงานจิตอาสาเป็นความสุขที่ช่วยให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น และช่วยขัดเกลาตนเอง เราคงได้ยินคำพูดว่า จิตที่คิดจะให้นั้นเบากว่าจิตที่คิดจะเอา เมื่อเราอยากจะให้ อยากจะแบ่งปัน มันมีความสุข ถ้าคิดจะไปเอามันจะหงุดหงิด จิตมันจะหนักๆ ตันๆ ครับ … การทำอะไรเพื่อผู้อื่นนำมาซึ่งความสุข ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินเมื่อเราลงมืออาสาช่วยเหลือผู้อื่น ผมเชื่อว่าคนจะไปทำงานอาสา ถ้าเขาเห็นโอกาส และพบงานที่ชอบ" อ.
จิตอาสาสายก่อสร้าง ซ่อม/สร้าง/ทาสีอาคารเรียน, สร้างห้องสมุด ฯลฯ น้องๆ จะได้เดินทางไปสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะโรงเรียนที่ขาดแคลนทั้งทุนทรัพย์และกำลังคน เพื่อช่วยซ่อม-สร้าง-ทาสี อาคารเรียน, โรงอาหาร, สนามเด็กเล่น, เครื่องเล่น, โต๊ะเก้าอี้, ตู้หนังสือ ฯลฯ ช่วยให้นักเรียนมีความสุขกับการเรียนมากขึ้น ส่วนใหญ่แล้วจิตอาสาประเภทนี้จะไปกันเป็นหมู่คณะ ภารกิจที่ดูทั้งเหนื่อยและหนักจึงเบาลงและสนุกขึ้นมากทีเดียวค่ะ Photo by RhondaK Native Florida Folk Artist on Unsplash 4.