"เรียนหมอหนักมาก" เรามักได้ยินคำนี้อยู่เสมอๆ จนกลายเป็นเรื่องเคยชินกันไปแล้ว หลายคนทุ่มเทอ่านหนังสือติวข้อสอบเพื่อได้เข้าเรียนในคณะแพทย์ตามมหาวิทยาลัยในฝันของตัวเองให้ได้ แต่ถึงอย่างนั้น แม้ว่าก่อนเข้ามาจะพบกับช่วงเวลาหนักๆ มาก่อน การได้มาฝึกเรียนในฐานะ 'นักศึกษาแพทย์' จริงๆ กลับพบว่ามันคือภารกิจที่ยากลำบากที่มากกกว่าเดิมหลายเท่าตัว บางคนให้ความเห็นว่า ตั้งแต่เกิดมานี่คือช่วงชีวิตที่หนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยเจอมา แน่นอนว่าเรียนหมอหนักมาก คำถามคือแล้วมันหนักขนาดไหน?
การเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานโดยทั่วไปแล้วมักต้องอาศัยการวางแผนล่วงหน้าและการค้นคว้าหาข้อมูลอย่างถ้วนถี่ แต่หากคุณไม่มีเวลามากพอหรือมีเวลาเพียง 24 ชั่วโมงล่ะ คุณจะเตรียมตัวอย่างไรให้ได้แสดงความสามารถและความเป็นตัวตนของคุณที่ดีที่สุดออกมาภายใต้ความกดดันในการไปสัมภาษณ์งานที่เกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกนี้? ช้าก่อนอย่าเพิ่งลนลานค่ะ สูดหายใจเข้าลึก ๆ สิ่งที่คุณต้องทำคือการตั้งสติและจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังให้ดี ถ้าคุณนำ 14 เทคนิคฉบับเร่งรัด ที่ jobsDB นำมาฝากนี้ไปใช้ รับรองคุณจะประสบความสำเร็จในการไปสัมภาษณ์งานในเวลาเตรียมตัวไม่ถึง 24 ชั่วโมงแน่นอน มาเริ่มนับถอยหลังไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ 24 ชั่วโมงก่อนไปสัมภาษณ์งาน ทิ้งทุกอย่างและมุ่งความสนใจไปที่การเตรียมตัวสัมภาษณ์งานให้พร้อม อาจจะลางานเพื่อมาเตรียมความพร้อม ถ้าเป็นไปได้ การจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังคือกุญแจสำคัญ เมื่อต้องทำงานแข่งกับเวลา คุณไม่มีเวลาพอที่จะค่อย ๆ หาข้อมูลไปเรื่อย ๆ 1. พุ่งเป้าไปที่ข้อมูลสำคัญขององค์กรที่คุณจะไปสัมภาษณ์ ดังนี้ – ปรัชญาและค่านิยม – วัฒนธรรมองค์กร – ลักษณะของผู้นำองค์กร – ความท้าทายและเป้าหมาย – ข่าวสารเกี่ยวกับองค์กรหรือธุรกิจที่องค์กรนั้นเกี่ยวข้องอยู่ ณ ขณะนั้น วิธีการเข้าถึงข้อมูลข้างต้น – เข้าไปที่หน้าเวปไซต์หรือหน้าโซเชียลมีเดียขององค์กร – ตรวจสอบปฏิกิริยาของลูกค้าในโซเชียลมีเดียขององค์กร และดูว่าองค์กรมีการจัดการกับปฏิกิริยานั้น ๆ อย่างไร – อ่านบทวิจารณ์ของพนักงานทั้งเก่าและปัจจุบันทางออนไลน์ – หาอ่านข่าวเกี่ยวกับองค์กรที่กำลังเป็นที่นิยมหรือเป็นที่พูดถึงอยู่ 2.
เรียนรู้สังคมและวัฒนธรรมต่างๆ เพราะนิทานหลายเรื่อง หากนำจากของต่างประเทศมาแปล เช่น เรื่องเกี่ยวกับหิมะ การฉลองเทศกาลสำคัญๆ ของต่างประเทศ เด็กไทยก็รู้จักหิมะ ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหิมะ แต่เขาเห็นจากนิทาน หนังสือการ์ตูน หนังการ์ตูน 5. ปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน จากการได้ฟังบ่อยๆ เสริมปัญญา ทำให้เด็กช่างคิด ช่างถาม ช่างสังเกต ช่วยฝึกจับประเด็น จากการเล่าช้า เด็กก็จะจำได้ทั้งเรื่อง มองภาพรวม เข้าใจเรื่องได้เร็ว ฝึกสมาธิ เพราะตั้งใจฟังนิทาน 6.
ตั้งนาฬิกาปลุกไว้หลาย ๆ อัน หากคุณเป็นคนตื่นยากแต่เผอิญต้องไปสัมภาษณ์งานตอนเช้า การตั้งนาฬิกาปลุกไว้หลาย ๆ อันนอกจากในโทรศัพท์เป็นเรื่องจำเป็นค่ะ เช้าวันสัมภาษณ์งาน (กรณีที่คุณมีสัมภาษณ์งานตอนเช้า) 9. ตื่นให้เช้า เพื่อจะได้มีเวลาเหลือสำหรับการรับประทานอาหารเช้าและผ่อนคลายให้สมองโล่งดีกว่าที่จะรีบ ๆ ลน ๆ แล้วไปสัมภาษณ์งานแบบไม่พร้อมและประหม่า เพราะต้องรีบมาให้ทันเวลา 10. ฟังเพลงที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายระหว่างเดินทาง ไม่ว่าคุณจะขับรถไปเองหรือใช้บริการรถสาธารณะ การฟังเพลงที่คุณชอบจะช่วยให้คุณผ่อนคลายและมีสมาธิมากขึ้นก่อนการสัมภาษณ์งาน บ่ายวันสัมภาษณ์งาน (กรณีที่คุณมีสัมภาษณ์งานตอนบ่าย) 11. งดการรับประทานอาหารที่ทำให้ย่อยยากหรือขับลม เช่น กระเทียมหรือถั่ว เพราะคุณมีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะสร้างความประทับใจแรกที่น่าจดจำ พยายามเลือกอาหารมื้อกลางวันที่เบา ๆ ย่อยง่าย เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยหรือความไม่สบายตัวอันอาจเกิดขึ้นจากอาหาร ในขณะที่สัมภาษณ์งาน 30 นาทีก่อนไปสัมภาษณ์งาน 12. คุณควรไปถึงก่อนเวลาสัมภาษณ์งาน 15 นาที หรืออาจไปถึงที่หมายก่อนเวลาสักพักก็ได้ แต่ควรปรากฏตัวให้ผู้สัมภาษณ์งานเห็นประมาณ 15 นาทีไม่ขาดไม่เกิน เพราะการไปถึงที่สัมภาษณ์งานเร็วเกินไป อาจสร้างความกดดันให้ผู้สัมภาษณ์งานได้ หากเขายังไม่พร้อม และอาจสร้างความไม่น่าประทับใจที่เขามีต่อคุณได้โดยไม่จำเป็น 13.
นมพ่อแบบเฮฟวี่ is on Facebook. To connect with นมพ่อแบบเฮฟวี่, log into Facebook. Log In or Join นมพ่อแบบเฮฟวี่ is on Facebook. Log In or Join Previous Next
ทั้งฮาและน่ารัก นักศึกษาจีน ถ่ายรูปรับปริญญา เลียนแบบโปสเตอร์หนัง 10 เรื่องน่ารู้ วันสอบเข้ามหาวิทยาลัย ของนักเรียนเกาหลีใต้ | การทดสอบ CSAT
ในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่จีนก็ถือว่าเข้าสู่ฤดูหนาว นักเรียนบางคนก็ต้องสอบแล้ว แต่ อากาศก็หนาว เนื้อหาก็เยอะ รูมเมทก็จะนอน ทำอย่างไรดีนะ? ไม่เป็นไร ฉันก็หอบผ้าห่มกับโคมไฟ ออกมาอ่านข้างนอกก็ได้ … ดังนั้นช่วงนี้ตามระเบียงทางเดินของโรงเรียน จะเต็มไปด้วยนักเรียนที่ต้องการจะทบทวนเนื้อหาก่อนการสอบ ได้แบ่งปันภาพ บรรยากาศก่อนการสอบนักเรียนจีน นี้ให้เราได้เห็นถึงความขยันและตั้งใจของพวกเขา บรรยากาศก่อนการสอบนักเรียนจีน ทำไมต้องออกมาอ่านข้างนอก โรงเรียนไม่มีห้องอ่านหนังสือหรือ?
ปรีดา กล่าวทิ้งท้าย "หนังสือ" คือเครื่องมือที่ดีที่สุด ทำให้เด็กพัฒนาทั้ง ความฉลาดทางสติปัญญา (IQ) อารมณ์ (EQ) เป็นคนเก่งและเอาตัวรอดได้ ถ้าหากพ่อแม่ไม่หยิบยื่นหนังสือให้ นั่นถือเป็นการพลาดโอกาสสำคัญในช่วง 6 ปีแรกของชีวิตลูก ที่ไม่มีโอกาสได้กลับไปแก้ไขได้อีกเลย. ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน ข่าวอื่นที่น่าสนใจ 30 นาทีเท่านั้น พ่อ แม่ ท่องจำขึ้นใจ ข้อควรระวัง "คอกกั้นลูก" โรคหายาก ลูกป่วยโคม่า 23 วัน ปาฏิหาริย์ แม่อุ้มครั้งแรกฟื้นความตาย "โค้ชชิ่งบุฟเฟต์" เปิดร้านต้องไม่เจ๊ง ทริกปั้นกำไร ทำให้ "ลูกค้ารู้สึกชนะ" (คลิป) รักแท้แสนรันทด วิวาห์ 8 เดือน สามีตายจาก มหัศจรรย์ให้สิ่งล้ำค่าแทนใจ (คลิป) สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่ หรือช่องทาง Facebook: ทีมข่าวเฉพาะกิจ