เวอร์ชั่นนิยาย (ไลท์โนเวล): แมงมุมแล้วไง ข้องใจเหรอคะ เล่ม 1 -12 คลิกรูปปกหนังสือที่เห็นด้านล่าง เพื่อดาวน์โหลดอีบุ๊คแต่ละเล่มได้เลยค่ะ เวอร์ชั่นการ์ตูน: แมงมุมแล้วไง ข้องใจเหรอคะ เล่ม 1-9 พอรู้สึกตัวอีกทีเด็กสาวมัธยมปลายแสนธรรมดาอย่างฉัน ก็ดันกลับชาติมาเกิดเป็น " แมงมุม " ในดินแดนที่ไม่รู้จักไปเสียนี่!? เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังหลงเข้าไปในดันเจี้ยนสุดโหดที่จัดให้ "แมงมุม" เป็นมอนสเตอร์สายพันธุ์ต่ำต้อยอีก เฮ้อ…แล้วแมงมุมตัวกะจ้อยร่อยอย่างฉัน จะเอาชีวิตรอดจากเหล่ากบพิษ งูยักษ์ และมังกรตัวมหึมาไปได้ยังไงกันเนี่ย… เรื่องราวเซอร์ไววัลของน้องแมงมุม ผู้มีหัวใจแกร่งดุจหินผาเปิดม่านแล้ว!
"หยวนสู่เงยหน้าขึ้นและถามออกมา ขณะเดินตามชิงสุ่ยไปตามท้องถนน "แน่นอน ข้าจึงต้องเวะมาที่เมืองแห่งนี้"ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม "โอ้จริงสิดูเหมือนว่าข้าจะลืมเรื่องนี้ไปนานแล้ว ข้าจำได้ว่ามีคนของตระกูลเทียนฮี่ ที่เคยสงจัดหมายเพื่อขอความช่วยเหลือของเรา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยคาดหวังมากนัก"หยวนซุกล่าวด้วยรอยยิ้ม หลังจากได้ข้อมูลที่อยู่ของตระกูลเทียนฮี่ ชิงสุ่ยก็ได้เรียกมังกรไอยราออกมาและออกเดินทางอีกครั้งไปยังที่ตั้งของพวกเขา ……. ตระกูลเทียนฮี่! "ฮาวเอ๋อ เจ้าสัมผัสมันได้รึไม่? " ชายชราคนหนึ่งในชุดที่ดูสง่างามกล่าวออกมา ขณะที่มองไปที่ชายหนุ่มที่ดูอ่อนเยาว์ และหล่อเหล่า นอกจากนี้ใบหน้าของเขานั้นยังคงดูเด็กอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ลึกลับอีกด้วย "ใช่ข้าสัมผัสมันได้ เมื่อยี่สีบปีก่อนมันเคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว มันเป็นกลิ่นอายของคนที่มากจากทวีปเมฆามรกตที่แยกตัวออกไปนับพันๆปีก่อน มีเพียงพวกเราตระกูลเทียนฮี่เท่านั้นที่สามารถสัมผัสมันได้ ใครคิดว่าหลังจากผ่านไป20ปีแล้ว มันจะมาปรากฏที่แห่งนี้อีกครั้ง" "เรารีบออกไปดูเถอะ ข้าอยากรู้จริงๆว่าเป็นผู้ใดกันที่มาจากทวีปแห่งนั้น" "ดีเลยท่านปู่ ข้าก็สงสัยเช่นเดียวกัน! "
หลี่มู่ที่กำลังตื่นเต้นไม่สนใจจะจัดการคราบสีดำบนร่างกายของเขาเลยสักนิด เขากลับนั่งขัดสมาธิลงที่เดิม แล้วลองฝึกพลังก่อนกำเนิดอย่างอดไม่ไหว เขาแตะลิ้นไปบนเพดานปาก กำหนดสมาธิจากตาสู่จมูก จมูกสู่ใจ ทำใจให้นิ่ง ก่อนจะเริ่มหายใจด้วยจังหวะที่แปลกไป พลังก่อนกำเนิด คือวิชาเหนี่ยวนำและวิธีการหายใจอย่างหนึ่ง ระหว่างที่หายใจ เขาก็ได้ประสบการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อนบนโลกมนุษย์ พระจันทร์กระจ่างส่องแสงมาที่หลี่มู่ ทำให้ร่างของเขาเหมือนเรืองแสงสีเงิน มีรัศมีดั่งความฝัน ตำนาน…ได้เริ่มขึ้นแล้ว ….
"หลิงเทียนถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังปากดีอยู่ได้…อย่าได้ลืมไป ว่าวันนี้ข้างกายเจ้ามิมีกู่ลี่!! " เผชิญกับวาจาเสียดสีของต้วนหลิงเทียน จ้าวตงมีโมโหนัก เพราะมันจดจำได้ดีว่ากู่ลี่เล่นงานมันยังไง "อ้อ.. เจ้าคิดว่าพอพี่กู่ไม่อยู่กับข้า จะทำอะไรกับข้าก็ทำได้? " ยิ่งมาใบหน้าต้วนหลิงเทียนยิ่งเผยความเย้ยเยาะ ในแววตายังเผยความดูแคลนเบื่อหน่ายประการหนึ่ง "หาที่ตาย!! " เผชิญหน้ากับการท้าทายดูถูกของต้วนหลิงเทียน จ้าวตงไม่อาจทนได้ไหวสืบไป มันคำรามออกมาดังสนั่น ปราณทั่วร่างปะทุออกปานจุดระเบิด ร่างพุ่งวูบมาปานเส้นสายอัสนีจี้ตรงเข้าใส่ต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด ปง! ปง! ปง! … ความเร็วของจ้าวตงนับว่าดั่งฟ้าฟาด พาลให้เสียงแตกระเบิดของอากาศดังสนั่นไม่หยุด ยังบังเกิดวงคลื่นกำจายระเบิดออกไปในความว่างตามรายทาง วงคลื่นอากาศระเบิดออกเช่นนี้ ย่อมก่อให้เกิดสายลมกรรโชกอันรุนแรง คลื่นพลังยังแผ่กวาดออกไปพร้อมลมกรรโชกดังกล่าว พาลให้ศิษย์สกุลจ้าวที่พึ่งเร่งรุดติดตามมาถึง ถูกพัดจนเสื้อกระพือสะบัดดังผับๆ "แย่แล้ว! จ้าวตงกำลังจะลงมือสำเร็จ!! " "รีบไป มีส่วนร่วมในการฆ่าหลิงเทียนให้ได้! ขอเพียงพวกเราสามารถมีส่วนร่วมในการฆ่ามันได้ คราวนี้พวกเราก็จักได้กลายเป็นบุตรบุญธรรมของผู้พิทักษ์จ้าว!
ไหงนิ่งไปไม่ลงมือแล้วล่ะ? " เสียงต้วนหลิงเทียนดังขึ้นอีกครั้ง สองตามองจ้าวตงอย่างสนุกสนาน พาลให้ทุกคนแทบหยุดหายใจ จ้าวตงที่ตระหนักถึงวาจายะโสก่อนหน้า อยากจะขุดหลุมแล้วเอาหน้ามุดนัก หูยังแดงขึ้นมาด้วยความอับอาย รู้ซึ้งแล้วว่าการกระทำก่อนหน้าช่างโง่เขลาปานใด ไม่คิดเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะระเบิดพลังสังหารน่ากลัวขนาดนี้ได้! เมื่อเห็นจ้าวตงเงียบไป แววตาต้วนหลิงเทียนก็เริ่มเย็นลง สุดท้ายก็กลายเป็นเฉยเมย จิตสังหารหนึ่งค่อยๆปรากฏ…เบื่อจะเล่นกับพวกมันแล้ว… สัมผัสได้ถึงจิตสังหารในแววตาต้วนหลิงเทียน จ้าวตงร้อนรนจนหน้าถอดสี เร่งกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกทันที "ใต้เท้าหลิงเทียน เป็นข้ามีตาแต่หามีแววไม่ ไท่ซานตั้งอยู่ตรงหน้าแต่มิอาจแลเห็นความยิ่งใหญ่…ปล่อยข้าไปสักครั้งเถอะ แล้วข้าจะไม่มาให้ท่านเห็นอีกแล้ว! ข้าสัญญา!! " เมื่อกล่าวออกไปแล้วแต่จิตสังหารในแววตาต้วนหลิงเทียนยังไม่จางหายไป จ้าวตงที่ขวัญหนีดีฝ่อเร่งคุกเข่าลงกลางอากาศ ยกมือขึ้นมากอบกุมเขย่าๆ คล้ายกำลังอธิษฐานขอพรด้วยท่างทางตื่นกลัว "ได้โปรดเถอะ ใต้เท้าหลิงเทียน ขอท่านละเว้นข้าสักครั้ง วาจาก่อนหน้าของข้าเป็นเพียงผายลมเหม็นคลุ้ง! ผู้ยิ่งใหญ่เช่นท่านอย่าได้ยึดถือสนใจอันใดเลย…" เมื่อเห็นว่าตอนนี้จ้าวตงแสดงอาการน่าสมเพชขนาดไหน กระทั่งศิษย์สกุลจ้าวที่มาด้วยก็อดไม่ได้ที่จะเผยความดูถูกหยามหยัน แน่นอนว่าในกลุ่มนั้นก็มีคนที่เข้าใจการกระทำนี้ของจ้าวตง พวกมันรู้สึกว่าไม่ผิดแปลกอะไร เพื่อให้มีชีวิตรอดพวกมันกระทำได้ทั้งสิ้น "เหอะ! "
เห็นจ้าวตงคล้ายเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจนกลายเป็นตัวน่าสมเพช แววตาต้วนหลิงเทียนเต็มไปด้วยความรังเกียจขยะแขยง ยกมือขึ้นตามอำเถอใจ ปรากฏกระบี่พลังสีทองเล่มหนึ่งพุ่งแหวกฟ้าไปฉับไว รี่เข้าหาจ้าวตงด้วยความเร็วน่าสะพรึง! จ้าวตงแม้จะคุกเข่าร้องขอชีวิต แต่มันก็เตรียมตัวรับมือความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน ทันทีที่ต้วนหลิงเทียนลงมือ มันก็ตระหนักได้ เร่งปะทุพลังชั่วชีวิตดีดร่างขึ้นมาจากท่าคุกเข่า ผนึกพลังหมายต้านรับเต็มกำลัง อนิจจาจ้าวตงที่พึ่งทะลวงผ่านอริยะเซียนขั้นสูงสุดได้ไม่ทันไร ยังไม่อาจปรับตัวจนควบคุมปราณแรกกำเนิดได้คล่องด้วยซ้ำ ยังจะเอาอะไรไปป้องกันการลงมือของหลิงเทียน!? กระบี่พลังสีทองส่องสว่างปานตะวันกลางฟ้าตัดผ่าอากาศฉับไวไร้สำเนียง เสียบทะลุร่างจ้าวตงเข้ากลางใจ! ม่านพลังป้องกันที่เร่งเร้าจากปราณชั่วชีวิตสุดท้ายไม่ต่างใบไม้แห้งกรอบ ไม่อาจป้องกันต้านทานได้สักกะผีกเดียว… "เจ้า…" ร่างจ้าวตงสะท้านไปอย่างแรง คนก้มลงมองเห็นเพียงหลุมโลหิตหนึ่งตำแหน่งหัวใจ หยาดโลหิตพุ่งปรี๊ดๆออกมาดั่งน้ำพุ มันพยายามยกมือขึ้นชี้ไปที่ต้วนหลิงเทียน หน้าซีดปากสั่นหมายกล่าววาจาใดสักอย่าง…อนิจจาร่างไร้หัวใจไหนเลยอยู่ได้นาน สุดท้ายก็ร่วงตกจากฟ้าไปปานหุ่นกระบอกไร้ด้าย ตาย!
เมื่อได้รับพลังวิญญาณเข้ามาในกาย พละกำลังของหลี่มู่เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว แม้ว่าหนึ่งวันหนึ่งคืนที่ผ่านมา หลี่มู่จะเคยแอบทดสอบดู แต่ก็ยังไม่รู้ว่าพลังของตนเองแข็งแกร่งมากเพียงใด และนี่เป็นผลของการมาต่างโลกเพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนเท่านั้น หากฝึกในสภาพแวดล้อมแบบนี้หลายปี จะสามารถแข็งแกร่งไปถึงระดับไหนกัน?
ทว่าทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้น พาลให้ศิษย์สกุลจ้าวที่รอดตายถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ตอนแรกพวกมันก็คิดว่าหลิงเทียนย้อนกลับมาฆ่าพวกมันเสียแล้ว หน้าเบี้ยวไปคล้ายสิ้นหวังใกล้ตาย แต่พอหันกลับมา ต่างก็พบว่าเป็นน้องเล็กของพวกมันนั่นเอง "ข้าถามพวกเจ้าอยู่ หูหนวกรึไง? " สีหน้าจ้าวจี้มืดดำลงทันใด เมื่อถามไปแล้วไม่มีใครตอบคำ มันพึ่งมาถึงก็พบเจอศพเกลื่อนพื้น สำหรับมันแล้วศพบนพื้นนั้นล้วนแล้วแต่มีใบหน้าที่คุ้นตาของมันทั้งสิ้น…เพราะทั้งหมดคือคนของสกุลจ้าว! "ใช่ เป็นมันลงมือ! " "หลิงเทียนนั่นมันสัตว์ประหลาด! เพียงแค่ 2 ปีกลับกลายเป็นยอดฝีมือขอบเขตอริยะเซียนขั้นสูงสุดแล้ว!! " …… เหล่าศิษย์ตระกูลจ้าวกล่าวออกมาทีละคนๆ ฟังจากน้ำเสียงแต่ละคนยังหวาดกลัวเสียขวัญไม่หาย
"ตระกูลอี่หวงมีคนที่น่าเกรงขามเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร? " "ป่าวเลย ข้านั้นไม่ใช่คนที่น่าเกรงข้ามเช่นนั้นหรอก " ชิงสุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม ชายชราคนนั้นได้แต่นิ่งและยิ้มออกมา "ไม่เลว ๆ ไหนเล่าลองให้ข้าฟังสิว่าเจ้าคุยอะไรกับหลานชายของข้าไปบ้าง" ……. โรคปราณพิการ!