(วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ). สุวพิชญ์ เกษมสุข. (2560). การเปรียบเทียบพัฒนาการทักษะการทำงานกลุ่มและคุณภาพผลงานของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายที่ได้รับข้อมูลป้อนกลับจากการประเมินหลายแหล่งที่แตกต่างกัน. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย). สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. แนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. อัจจณา ธูปแพ. ผลของการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบโรงเรียนโดยใช้กระบวนการละครที่มีต่อความเห็นคุณค่าในตนเองของกลุ่มสตรีในศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคกลาง. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย). Coopersmith, S. (1981) antecedent of Self- Esteem. California: Consulting Psychologist Press Inc. Isaksen, S. G., & Treffinger, D. J. (2004). Celebrating 50 years of reflective practice: versions of creative problem solving. Journal of Creative Behavior. 38(2), 75–101. Reali, P. D. (2010). Creative Problem Solving (CPS): The 5-Minute Guide.
05 Downloads Download data is not yet available. Article Details การอ้างอิงบทความ ประเภทบทความ บทความวิจัย เอกสารอ้างอิง กรกช สุดสวัสดิ์. (2553). ผลของการจัดกิจกรรมพลศึกษาโดยใช้กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์เพื่อพัฒนาการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนประถมศึกษา. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย). กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2550). ทักษะแก้ปัญหา เรื่องจำเป็นสำหรับเด็กไทย. Oknation Blog. จินตนา กิจบำรุง. (2545). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัยและศึกษาทักษะการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สอนด้วยวิธีสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้และวิธีสอนตามคู่มือครู. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศิลปากร). ทิศนา แขมมณี. กลุ่มสัมพันธ์เพื่อการทำงานและการจัดการเรียนการสอน. กรุงเทพฯ: นิชินแอดเวอร์ไทซิ่งกรู๊ฟ. นฤมล จันทร์สุขวงค์. การวิจัยและพัฒนาแผนกิจกรรมโครงงานที่ประยุกต์ใช้กระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการทำงานกลุ่ม และคุณภาพผลงานของนักเรียนประถมศึกษา.
เก๋จะกระตุ้นให้ผู้เข้าสัมมนาคิดไอเดียออกมาให้มากที่สุดก่อน จากนั้นจึงค่อยๆคัดกรองไอเดียดีๆ ที่มีความเป็นไปได้ มีความคิดสร้างสรรค์และตอบโจทย์องค์กรให้ไปต่อยอดได้ต่อไปค่ะ อ. เก๋หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับผู้ที่สนใจ การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ( Creative Problem Solving: CPS) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานนะคะ สนใจ หลักสูตร การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ( Creative Problem Solving for Performance working) กดที่นี่ Ref. Creative Education Foundation: Innovation Management Website: Course Online: Coursera (อ. เก๋เรียนคอร์สนี้จบแล้วค่ะ สนุกดีค่ะ แนะนำเลยนะคะ เรียนฟรีค่ะ) หนังสือ 101 เทคนิคการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ Creative Problem solving Techniques........................... ประวัติวิทยากร อ. ศศิมา สุขสว่าง จบการศึกษาปริญญาโทด้านวิศวกรรมศาสตร์จากประเทศเยอรมนี ทำงานด้าน การพัฒนานวัตกรรมมาโดยตลอด และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ ของ THTI ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการศูนย์กว่า 8 ปี รวมระยะเวลาในการทำงานด้านนักวิจัย ที่ปรึกษา วิทยากรด้านการพัฒนานวัตกรรมและบริหารโครงการกว่า 18 ปี อ.
(วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย). นิพิฐพร โกมลกิติศักดิ์. การวิเคราะห์ผลของกระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ ทักษะการทำงานกลุ่ม และการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น: การทดลองแบบอนุกรมเวลา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย). แน่งน้อย ประชานุกูล. (2548). การเปรียบเทียบความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะการทำงานกลุ่ม ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่สอนโดยการบูรณาการแบบร่วมแรงผสานใจกับการสอนตามปกติ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม). ภัทรกร แสงไชย. การวิเคราะห์ผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างการสอนแบบแก้ปัญหาโดยอิงทฤษฎีสามศรกับรูปแบบการแก้ปัญหา ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3. (วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย). สุธนี ลิกขะไชย. (2555). ผลของการใช้โปรแกรมต่อการเห็นคุณค่าในตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 โรงเรียนลอยสายอนุสรณ์ สำนักงานเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร.
มองปัญหาอย่างเฉพาะเจาะจง บางคนอาจเจอปัญหาหลายเรื่องพร้อมๆ กัน แต่ละปัญหามีความคล้ายคลึงกันบ้างหรือแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่ต้องทำคือต้องพิจารณาปัญหาเหล่านั้นอย่างเจาะจงลงไป ให้รู้ว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง เพื่อหาหนทางในการแก้ปัญหาให้ได้ตรงจุดมากขึ้น มองเห็นปัญหาได้ทะลุปรุโปร่ง และได้คำตอบที่ชัดเจน 2. คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาหรือคำตอบหลายๆ ทาง เพราะ วิธีการแก้ปัญหาหรือคำตอบที่คิดได้เป็นอันดับแรกๆ อาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด แต่เป็นหนทางเอาตัวรอด ก็เพราะความคิดเห็นและข้อมูลที่สำคัญๆ นั้นมีอยู่มากมาย ต้องพยายามคิดให้รอบด้าน แยกแยะ และคัดเลือกออกมา เพื่อให้ได้คำตอบที่ดี สร้างสรรค์ และตอบโจทย์ได้มากที่สุด ต้องเรียนรู้ที่จะมองว่าปัญหาแต่ละข้อ แต่ละอย่างนั้นอาจเป็นส่วนของสิ่งอื่น เพื่อให้เราได้มองปัญหาจากวิธีที่เป็นระบบ ทำให้เราปรับปรุงกลยุทธ์ที่เหมาะสม 3. แก้ปัญหาด้วยการมองระยะยาว ฝึกมองปัญหาและหาหนทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบได้ ก็จะทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ในระยะยาว ผลที่ตามมาคือการวางแผนแก้ปัญหาที่พึงระลึกถึงผลที่จะเกิดทั้งในระยะสั้นและยาว 4.